ทำอย่างไรเมื่อลูกกลายเป็นเด็กใจแตก?

ทำอย่างไรเมื่อลูกกลายเป็นเด็กใจแตก ?

ปัญหาลูกใจแตก ฟังแล้วคนเป็นพ่อแม่ก็ใจแตกสลาย เพราะคงไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเห็นลูกเสียคนโดยที่ทำอะไรไม่ได้ แต่เมื่อลูกเกิดใจแตกไปแล้ว ก็ต้องมาหาวิธีแก้ไขให้ลูกดำเนินชีวิตต่อไปได้ ซึ่งพ่อแม่จะต้องใจเย็นและต้องเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดึงลูกกลับมาให้เหมือนเดิม แต่ก็พอจะมีวิธีให้พ่อแม่นำไปปรับใช้กันดู ดังนี้

1. ใจเย็น และมีสติให้มาก

เพราะการที่ต้องเจอกับลูกที่กลายเป็นเด็กใจแตกไปแล้ว จะหวังว่าจะพูดคุยกับเขาง่ายๆ คงจะไม่ใช่ การตั้งสติและใจเย็นจะทำให้เราควบคุมสถานการณ์ และไม่เป็นการเติมเชื้อไฟให้รุนแรงไปกว่าเดิม และสิ่งแรกที่พ่อแม่ควรทำ คือ พยายามรับรุ้ถึงปัญหาที่เขาได้รับ และค่อยๆมาคิดหาทางออก

2. ตั้งคำถามให้ลูกได้คิดทบทวนและยอมรับความผิดด้วยตัวเอง

เพราะการจะแก้ปัญหาให้ได้ผล คนทำต้องยอมรับก่อนและพร้อมจะยอมแก้ไขจะทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่ในความเป็นจริงการพูดให้เขายอมรับความผิดเป็นไปได้ยาก แต่ก็ต้องพยายาม ยิงคำถามให้เขาได้หาคำตอบด้วยตัวเอง ว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นตัวเขามีส่วนอย่างไรบ้าง ให้เขาคิดทบทวนและหาคำตอบด้วยตัวเอง เมื่อเขายอมรับก็เป็นหน้าที่ที่พ่อแม่จะต้องให้โอกาสกับลูกได้กลับตัวกลับใจ

3. แก้ปัญหาไปทีละเรื่อง

แน่นอนว่าเมื่อต้องมาแก้ไขวีรกรรมของลูกที่สร้างไว้มีมากมายหลายอย่าง แต่การแก้ปัญหาให้ได้ผล ควรค่อยๆแก้ไปทีละเรื่อง เพราะถ้าแก้ปัญหาหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันซึ่งมันก็เป็นเรื่องยาก และทำให้ลูกรู้สึกกดดัน และไม่อยากร่วมแก้ปัญหา แต่กลับไปสร้างปัญหาใหม่แทน ยิ่งจะทำให้ยากไปกว่าเดิม ควรมุ่งเน้นไปที่ปัญหาที่ผลต่อสุขภาพจิตใจก่อน เพราะถ้าลูกมีจิตใจที่เข้มแข็งได้รับกำลังใจจากพ่อแม่ ก็จะทำให้ลูกมีแรงฮึดที่จะร่วมแก้ปัญหาไปกับเราด้วย

4. ร่วมกันแก้ไข

ไม่ปล่อยให้ลูกต้องเผชิญปัญหาอยู่คนเดียว เพราะพ่อแม่บางคนมักชอบพูดว่า แกสร้างปัญหาแกก็ต้องแก้เอง การพูดแบบนี้อย่าลืมว่าลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่น ถ้าปล่อยให้เขาแก้ปัญหาเองเขาอาจจะใช้วิธีที่ผิดและเป็นการสร้างปัญหาใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมก็ได้ พ่อแม่จึงควรเข้าไปพูดคุยและร่วมกันกับลูกเพื่อแก้ปัญหาไปด้วยกัน จะทำให้ลูกรู้สึกว่าเขายังมีพ่อแม่ช่วยเขาในวันที่เขาต้องเผชิญปัญหาร้ายแรงในชีวิต ก็จะทำให้ลูกมีกำลังใจและยอมรับพ่อแม่มากขึ้น

5. พูดชื่นชมยินดีในความสำเร็จ

เมื่อร่วมกันแก้ปัญหาได้ทีละเรื่องพ่อแม่ก็ต้องหมั่นคอยพูดให้กำลังใจลูก เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าเขาสามารถผ่านพ้นปัญหามาได้หนึ่งอย่างแล้ว และมีกำลังใจที่จะต่อสู้และแก้ไขปัญหาอื่นๆ และการแสดงความชื่นชมลูกก็จะเป็นการลดกำแพงที่ลูกเคยคิดว่าพ่อแม่ไม่รักไม่สนใจ วิกฤตนี้ถึงจะร้ายแรงแต่ก็สร้างโอกาสให้พ่อแม่ลูกได้พูดคุยกันมากขึ้น ความรู้สึกดีดีก็จะกลับมาอีกครั้ง ต่อไปถึงแม้ปัญหามันจะหนักหนา ก็จะทำให้ลูกมีจิตใจที่เข้มแข็งที่จะต่อสู้มันไปให้ได้

การที่ลูกหลงเดินทางผิดไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นคนเลวโดยสันดาน คนเป็นพ่อแม่ก็ควรให้โอกาสให้ลูกได้กลับตัวกลับใจ ถึงจะโกรธยังไง เขาก็คือเลือดเนื้อ เขาคือ ลูกของเรา